ลิ้งเพื่อนบ้าน มีสาระยิ่งกว่า




โค๊ด:
<a href="http://me-sa-ra.blogspot.com" title="มีสาระมากๆๆๆๆ"><strong>มีสาระ</strong></a>




ออนอินไทย [ON.IN.TH] ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี งานออนไลน์ Thaigameboard โฆษณาขายบ้านฟรี ประกาศขายบ้านฟรี ดูหนังออนไลน์ สถานที่ท่องเที่ยว เตรียมทหาร รับซื้อทรูมันนี่






17.เรื่องไร้สาระของผู้หญิง ...ที่ผู้ชายควรเข้าใจ 
1.บ้าดูดวง...ถึงจะรู้ว่างมงายก็เถอะ แต่เธอก็ดูได้ทุกหมอ ทุกรูปแบบ ดูครั้งเดียวไม่พอ ยังขอเบิ้ลตลอด 

2.ต่อมน้ำตาตื้น...แค่หนังซึ้งๆ เพลงเศร้าๆ น้ำตาก็ทะลักออกมาได้ไม่ยากเย็น โฆษณาหรือการ์ตูน ยังเอามาเลียนแบบกันบ่อยๆ

3.ติดละครเหลือเกิน...ละครโปรดมาเมื่อไหร่ นั่งติดทีวี ไม่ไปไหนเลย หรือถ้าอยู่นอกบ้านก็ต้องรีบกลับมาอย่างเร่งด่วน ทั้งที่อ่านเรื่องย่อจากหนังสือพิมพ์ไปก่อนแล้ว 

4.เมาธ์แตก...เจอเพื่อนทีไรเป็นอันจ้อไม่หยุดจนลืมโลกทุกทีซิน่า และไม่พลาดเรื่องนินทาอีกด้วย โดยเฉพาะนินทาแฟนหรือสามีล่ะก็ ชอบนักเชียวแหละ 

5.ห้ามอยู่เรื่อย...เวลาคุณทำอะไร เธอก็มักจะห้ามอยู่เรื่อย ห้ามมองผู้หญิง ห้ามซื้อของแพง ห้ามโน่นห้ามนี่ แต่กับตัวเอง เธอทำทุกอย่างเต็มที่

6.มีปัญหากับการขับรถบ่อยๆ....ขับรถไปไหนต่อไหนที ไม่ผิดกฎจราจรก็ต้องหลงทางสักอย่าง ไม่รู้ว่าเป็นอะไร 

7.เจออาหารจานโปรดทีไร ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหน ไม่รู้กริยาหญิงหายไปไหน...ไดอ่งไดเอท ไม่สนแล้ว 

8.ชอบใช้มารยาหญิงเอาตัวรอด 

9.ปากก็บอกว่ารักคุณคนเดียว แต่ก็ชอบแอบปิ๊งคนอื่นอยู่เรื่อยๆ แถมยังแก้ตัวอีกว่าเป็นการเช็กเรตติ้งแค่นั้นเอง

10.แกล้งทำตัวเป็นสาวบอบบาง...อยากให้คุณทะนุถนอม แต่ตอนเธออารมณ์บ่จอย ทำไมแรงเยอะชะมัด 

11.เห็นของลดราคาเป็นไม่ได้...เหมือนมีแม่เหล็กมาดึงดูด อยู่ไกลถึงฮ่องกง ยังดูดเงินจากกระเป๋าเธอได้ จริงไหม

12.ขี้หึงได้ทุกสถานการณ์ และทุกสถานที่ด้วย

13.ชอบเรียกร้องความสนใจ ด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดดังเกินเหตุ โดยไม่จำเป็น 

14.ถึงจะเป็นกุลสตรีอย่างไร แต่ถ้าเจอภาพนู้ดก็ชอบดูเหมือนกันแหละครับ เพียงแต่ไม่อยากให้ใครรู้เป็นอันขาด เสียภาพพจน์หมด 

15.กลัวน้ำหนักขึ้นจนหน้ามืด...เลยไปสักขีดจะเป็นจะตายให้ได้ แต่มักมีข้อแก้ตัวเสมอ ถ้าเจอขนมถูกใจ เช่น เค้กผลไม้, เค้กลูกพรุน, หรือคุกกี้ ที่มักจะมีคำว่า Low fat อยู่ด้วย จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ถูกใจเป็นใช้ได้แล้ว 

16.อยากผิวขาว หน้าขาว อ่อนเยาว์ อ่อนวัย เครื่องสำอางหน้าขาวถึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

17.และยังมีอื่นๆ อีกมากมายเสียจนจาระไนไม่หวาดไม่ไหว...





ทำไม 1 โหลต้องมี 12 ชิ้น

จำนวน   12  ในหนึ่งโหลของไทยนั้นสัมพันธ์กับระบบนับจำนวนของต่างชาติซึ่งมีคำว่า dozen (โดซเซ่น) หมายถึง 12 เช่นเดียวกัน 

ย้อนกลับไปหาที่มาคำว่า dozen ถือกำเนิดจากชาวสุเมเรียนในเมโสโปเตเมียซึ่งเชื่อกันว่าเป็นชนชาติแรกที่สร้างสัญลักษณ์การนับตัวเลขในชีวิตประจำวันด้วยการเปล่งเสียงเรียก 

ต่อมาในช่วง  3,100 ปี ก่อนคริสตกาล ......ชาวสุเมเรียนเขียนจำนวนตัวเลขเป็นรูปลิ่ม และสร้างระบบจำนวนขึ้นมาจากฐาน 60 ซึ่งง่ายต่อการหารด้วยจำนวนต่างๆ แบ่งเป็นแฟ็กเตอร์ (ส่วนที่คูณกันขึ้นเป็นจำนวน) ได้แก่ 2, 3, 4, 5, 6, 10, 12, 15, 20, และ 30 

คำว่า dozen มีความหมายมาจาก "5 ส่วนของ 60" (12 คูณ 5 เท่ากับ 60) ภาษาละตินหมายถึง 12 ขณะที่ชาวโรมันถือว่าเลข 12 เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ จึงนำมาสร้างระบบการนับปี แบ่งให้มี 12 เดือน ส่วนพ่อค้าแม่ขายในในสมัยโบราณก็นิยมใช้ 12 ขายของ เพราะสะดวกและแยกส่วนได้ง่ายกว่าเลข 10 และใช้เรื่อยมาจนทุกวันนี้ 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าว่า ในช่วงยุคกลางของอังกฤษพ่อค้าขนมปังจะต้องถูกลงโทษหนัก หากตัดขายขนมปังในน้ำหนักที่ต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่พ่อค้าขนมปังในยุคนั้นก็ไม่ได้มีความรู้นับจำนวนอะไร กลัวจะพลาดระหว่าง 11 ก้อนกับ 12 ก้อนจึงหันไปใช้วิธีกันเหนียว คือตัดขนมปัง 13 ก้อนเวลาที่จะขายขนมปังหนึ่งโหล กรณีนี้หนึ่งโหลเลยมี 13 ชิ้น ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก 

ส่วนนักจิตวิทยาบางคนเคยทดสอบความแตกต่างระหว่างคนที่ชอบเลข 12 มากกว่าเลข 10 ว่าเป็นคนที่ยืดหยุ่นและอ่อนโยนกว่า อันนี้ก็ฟังไว้เล่นๆ ได้ 

ข้อมูลจากเว็บไซต์วิกิพีเดีย ระบุว่า โหลมาจากภาษาอังกฤษว่า Dozen รากศัพท์ภาษาละตินว่า duodecim เชื่อว่าเป็นการนับเลขรวมกลุ่มแบบแรกๆ เพราะตัวเลข 12 มาจากฐานการนับรอบดวงจันทร์โคจรรอบดวงอาทิตย์ รู้จักว่าเป็นระบบจำนวนฐานสิบสอง หรือทวาทิศนิยม (duodecimal system) 12 โหลเรียกว่า 1 กุรุส (a gross) การนับโหลสะดวกสบายเพราะตัวคูณและพหุคูณคิดได้ง่าย เช่น 12 เท่ากับ 3 X 2 X 2 หรือ 360 เท่ากับ 20 X 3

ขอบคุณข้อมูลจาก : โชว์เด็ด
สังคมศึกษา




Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More