ประชาธิปไตยจริงๆแล้วคืออะไร

การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ได้เอามาเพียงครึ่งๆกลางๆมีอยู่ว่า การปกครองตามเสียงส่วนใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและทรัพย์สินของเสียงส่วนน้อยด้วย

เทศกาลจับน

สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพ "เทศกาลจับนม" เทศกาล พิเศษ ซึ่งเพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 14-16 กรกฎาคมนี้ ที่หมู่บ้านของชนเผ่าอี๋ ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน โดยเปิดโอกาสให้หนุ่มๆ สัมผัสหน้าอกหน้าใจของสาวๆ ได้แบบไม่เข้าข่ายลามกอนาจารผิดกฎหมาย

รู้จักการให้อภัย

การให้อถัยมิได้หมายความว่า เราต้องยอมรับการกระทำของผู้อื่นกระทำต่อเราและมิได้ความหมายว่าเราจะลืมมันเสียแต่การให้อภัยคือการไม่ให้อารมณ์โกรธมาครอบงำ

ยอมเสียเปรียบบ้าง

พึงระลึกไว้เสมอว่าเรา"ชนะ"ตลอดไปไม่ได้และคงไม่มีอะไรเป็นไปได้อย่างใจทุกครั้ง เราอาจจะต้องเลือกระหว่างเป็นคน"ถูก"แลกกับการเป็นเพื่อนเอาไว้ ไม่ได้ว่าเราจะต้องเปลี่ยนทัศนคติหรือความเชื่อ

หายใจถูกวิธี ชีวีสุขสันต์

1. Plitvice falls(น้ำตกพลิทไวซ์ โครเอเชีย) ตั้งอยู่ในดินแดนทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ในส่วนของประเทศโครเอเชีย(Croatia) แม่น้ำโครานา(Korana) ทำให้เกิดทะเลสาบ 20 แห่งไหลผ่านหินปูนและหินชอล์ก ระหว่างทะเลสาบมีน้ำตกหลายแห่งและชั้นหลากหลายทีชวนมหัศจรรย์

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รู้จักการให้อภัย

"ความพยาบาทเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า"
วินสตัน เซอร์ซิลล์




ความอาฆาตพยาบาทเป็นตัวการสำคัญที่ค่อยทำร้ายจิตใจ ทำให้เราระแวงกังวัล ไม่มีความสุข ทำให้เรารู้สึกแห้งแล้งเคว้งคว้างเฉกเช่นแกล้บแห้งๆ คงไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่ๆที่ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ของศาสนาต่างๆ มีข้อใหญ่ใจความตรงกันว่า  การให้อภัยเป็นก้าวแรงที่สำคัญยิ่งที่นำไปสู่ความสมบรูณ์ทางจิตวิญญาณและความสุขที่แท้จริงของชีวิต





การให้อภัยผู้อื่นอาจจะทำได้ง่ายขึ้น ถ้าเราพยายามเข้าอกเข้าใจผู้อื่นด้วยการเอาใจเขามาใส่ใจเรา

การให้อถัยมิได้หมายความว่า เราต้องยอมรับการกระทำของผู้อื่นกระทำต่อเราและมิได้ความหมายว่าเราจะลืมมันเสียแต่การให้อภัยคือการไม่ให้อารมณ์โกรธมาครอบงำ

ยอมเสียเปรียบบ้าง

"ไม่ว่าจะเป็นคนที่ฉลาดที่สุด แข็งแกร่งที่สุด รวยที่สุด หรือสวยที่สุด ก็ทำให้ปูเดินตรงๆไม่ได้"

อริโตปานิส 1500 ปีก่อนคริสตาล





     พึงระลึกไว้เสมอว่าเรา"ชนะ"ตลอดไปไม่ได้และคงไม่มีอะไรเป็นไปได้อย่างใจทุกครั้ง เราอาจจะต้องเลือกระหว่างเป็นคน"ถูก"แลกกับการเป็นเพื่อนเอาไว้ ไม่ได้ว่าเราจะต้องเปลี่ยนทัศนคติหรือความเชื่อ   แต่ให้ชั่งใจกับวิธีการแสดงความคิดเห็นและตระหนักว่า บางครั้งการถอย 1 ก้าวก็อาจจะเป็นกระทำที่ฉลาดกว่า

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โรคนิ้วล็อคคืออะไร เกิดได้อย่างไร

นิ้วล็อค
               โรคนิ้วล็อคเป็นอีกโรคทางกล้ามเนื้อและกระดูกที่เป็นกันได้ทุกวัย โรคนี้ไม่มีอันตรายถึงกับชีวิตแต่อย่างใด แต่เมื่อโรคนี้เกิดขึ้น มือของคุณจะไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ 100% มันจะทั้งเจ็บปวดทั้งน่ารำคาญทำอะไรก็ไม่สะดวก แถมยังต้องระวังเป็นพิเศษจนคุณแทบอยากจะหักนิ้วทิ้ง สาเหตุของการเกิดนิ้วล็อคนี้มาจากหลายสาเหตุ อาทิ การยกของหนัก การเกร็งนิ้ว การหิ้วต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ "ปลอกหุ้มเอ็นอักเสบ" มากขึ้นมาก ๆ จนนำไปสู่ภาวะนิ้วล็อคได้

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ประชาธิปไตยจริงๆแล้วคืออะไรคุณรู้หรือไม่


ถามก่อนเลยนะครับ คำว่า"ประชาธิปไตย"คืออะไร (หลายคนอาจจะคิดว่าถามกูทำไมว่ะ ใครๆก็รู้)

*** ถ้าพวกคุณคิดว่าประชาธิปไตยคืออะไร การเลือกขอคนส่วนมาก ฝั่งไหนมีเสียงข้างมากก็คือผู้ชนะ  ถ้าคุณคิดแบบนั้น คุณคิดถูกครับ  อ้าว!! ( แต่!มันถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะมันไม่ต่างอะไรกับพวกเด็กยกพวกตีกัน พวกกูเยอะกว่าก็ชนะไป )  แล้วถ้าคุณจะคิดต่อไปอีกสักนิดว่า "อย่างนี้ พวกกูก็เลือกคนดีไง" แล้วถ้าถามว่า คนดีอะไร จะตอบว่าอะไรครับ : คนไม่โกงกิน คนไม่ตั้งกฏหมายชั้วๆ ไม่ทำเพื่อคนคนเดียว ฯลฯ   อย่างนี้ผมก็คนดีสิครับ  ผมไม่ได้ไปโกงกินบ้านเมืองสักหน่อย ไม่ได้ไปตั้งกฏหมายชั้วๆด้วย


จริงๆแล้วประชาธิปไตย มากจากคำว่า Democracy มันมีมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณแล้วครับ Democracy  มาจากรากศักพ์คำว่า Demos หมายความว่า คนจำนวนมาก และคำว่า Kratia หมายความว่า การปกครอง จึงแปลได้ว่า การปกครองของคนส่วนมาก แต่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่ได้เอามาเพียงครึ่งๆกลางๆมีอยู่ว่า "การปกครองตามเสียงส่วนใหญ่  แต่ในขณะเดียวกันก็คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและทรัพย์สินของเสียงส่วนน้อยด้วย"

การได้รับสิทธิเสรีคืออะไรครับ คือ ความเท่าเทียมกันภายใต้กฏหมาย(ไม่ใช่ว่ากูเป็นนายก ฆ่าคนไม่ผิด ก็เป็นสส.ฆ่าคนไม่ผิด)  สิทธิในการแสดงความเห็นทางการเมือง การยอมรับความแตกต่างในการใช้ชีวิต การนับถือศาสนา เพษภาพ เสรีสื่อ


การคุ้มครองสิทธิ คือ  แปลกันตรงๆนั้นแหล่ะครับ "ของของเขา จะไปใช้เสียงข้างมากยึดมาไม่ได้ OK?"


เพราะฉะนั้น : การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของคนส่วนน้อยก็สำคัญพอๆกับการปกครองของเสียงส่วนใหญ่นั้นแหล่ะครับ  เพราะ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีความเห็นเหมือนกันเสมอไป

  "การที่ท่านไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล แต่รัฐบาลต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของท่าน ไม่ให้ถูกระเมิดโดยผู้ใดก็ตาม"   นั้นแหล่ะครับคือ  อุดมการณ์ประชาธิปไตย อย่างแท้จริง







วิธีต่อสู้กับมะเร็งปากมดลูก


มะเร็งปากมดลูก
เข้าใจมัน
มะเร็งปากมดลูก อาจจะไม่น่ากลัวมากไปกว่ามะเร็งชนิดอื่นๆ แม้ว่ามะเร็งชนิดนี้จะคร่าชีวิตผู้หญิงไทยไปเยอะ นั่นเพราะว่า กว่าจะรู้ว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก ก็เข้าขั้นลุกลามไปแล้ว แต่โอกาสของการหายก็มีมาก หากเรารู้ก่อน และตรวจเจอเจ้าเชื้อไวรัส ที่ชื่อว่า "ฮิวแมนแปปปิโลมา" หรือ HPV นี้ก่อน ซึ่งเจ้าไวรัสชนิดนี้ เป็นตัวที่กระตุ้นปากมดลูกให้กลายเป็นมะเร็งสุดๆ นั่นเอง โดยสาเหตุที่ติดไวรัสชนิดนี้ หลักๆ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ กรณีที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อยกว่า 17 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีการกลายรูปของเซลล์ เคยเป็นซิฟิลิส หนองใน หรือ เป็นหูดหงอนไก่ ไม่ยอมไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หรือ เขินอายกับการไปตรวจภายใน การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานานๆ ถ้านานกว่า 5 ปี และ 10 ปี ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้น 1.3 เท่า และ 2.5 เท่า ตามลำดับ เช่นกัน
โดยเฉพาะวัยทำงานอย่างเราๆ จำเป็นมากเลย กับการที่จะไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ต้องไปตรวจแม้ว่าจะเคยมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ก็ตาม พอถึงเวลาหนึ่งก็ควรไปตรวจไว้จะดีที่สุด ซึ่งไม่เกี่ยวกับความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์ แม้จะฟีทเจอริ่งกันไม่บ่อย ก็มีโอกาสเป็นได้ทั้งนั้น ซึ่ง เราต้องไปตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือ ทุกๆ 6 เดือนได้ยิ่งดี ในกรณีที่เราไปตรวจแล้ว รู้ผลของการตรวจแล้วว่า อาจจะติดเชื้อ HPV หรืออะไรก็ตามที่อาจจะเกี่ยวข้อง เรารู้เร็ว ซึ่งมันเป็นเพียงระยะก่อนลุกลาม คือ ยังไม่ลามไปยังส่วนอื่นๆ ลดการเสี่ยงมะเร็งลุกลามเข้าไปช่องท้อง และต่อมน้ำเหลือง ในส่วนระยะก่อนลุกลามนี้ เราจะสามารถปรึกษาคุณหมอได้เลยว่า เราจะกำจัดจุดอ่อนนี้ได้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง เช่น ผ่าตัด ฝังแร่ ฉายแสง หรือวิธีอื่นๆ ที่เห็นตามความเหมาะสมและสมควร ตามคำวินิจฉัยของคุณหมอ
มะเร็งปากมดลูก
สำหรับเรื่องของการรักษานั้น หลายคนเป็นกังวลไปต่างๆ นานา แน่นอนว่า เมื่อรู้จักคำว่า "มะเร็ง" เป็นใคร ใครก็ตกใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ให้หายใจลึกๆ ตั้งสติให้มั่น แล้วตั้งมั่นกับคำว่า "สู้" อย่าไปเครียด อย่าไปสรรหายาผีบอกที่ไหนมากินเอง เพราะอาจจะส่งผลให้เจ้าเชื้อไวรัส หรือ มะเร็งตัวนี้ มันมีอารมณ์โกรธแล้วเพิ่มขนาดของมันก็เป็นได้ ทางที่ดีให้รับฟังคำแนะนำจากคุณหมอเจ้าของไข้ของเราจะดีที่สุด
อีกเรื่องที่สำคัญ และเป็นกังวลสำหรับหลายๆ คน คือ เรื่องของการรักษาพยาบาล เรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับคนที่มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท หรือ มีบัตรประกันสังคม สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแป๊ปสเมียร์ได้ฟรี* ซึ่งสามารถรับการตรวจได้ตั้งแต่ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35-60 ปี ผู้หญิงหลังคลอดลูก 6 เดือน หรือหญิงสาวที่สมัครใจเข้ารับการตรวจ ซึ่งไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมาก่อน

นอกจากนี้ในกรณีที่รู้ผลว่าเป็น สำหรับคนที่มี สิทธิบัตรทอง ก็สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ตัวเองมีสิทธิรักษาได้เลย หรือ ในกรณีที่ทางโรงพยาบาลต้นสังกัดออกหนังสือส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาต่อในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า อาทิ โรงพยาบาลของรัฐบาล ก็จะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ว่าจะต้องดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆ ทั้งเรื่องการพิจารณาจากทางโรงพยาบาลของรัฐบาล และโรงพยาบาลต้นสังกัด และอาจจะต้องรอคิวรักษาสักหน่อย เนื่องจากมีผู้เข้ารับการรักษาจากทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ส่วนคนที่มี สิทธิประกันสังคม* อยู่นั้น ระบบการส่งต่อก็จะคล้ายกันกับสิทธิบัตรทอง ในส่วนนี้เราอาจจะคลายความกังวลใจเรื่องค่ารักษาโรคมะเร็งได้ระดับหนึ่ง
ทั้งหมดที่เล่าให้ฟังนี้ ฉันเองก็เล่าให้คุณแม่ฟัง พร้อมได้รับคำแนะนำจากคุณหมอเพิ่มเติมมาว่า เรื่องอาหารการกิน ก็สามารถกินได้ตามปกติ อาจจะเน้น "โปรตีน" ที่จะช่วยซ่อมสร้างได้ อาทิ เนื้อไก่ ไข่ขาว ปลาและเต้าหู้ และหันไปหาหลานสาวที่เพิ่งแตกเนื้อสาวไม่นานบอกว่า "ให้คุณแม่ของเธอ พาไปฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงอายุ 10 - 12 ปี เพื่อป้องกันการเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตจะดีที่สุด เพราะป้าๆ ได้ผ่านช่วงนาทีทองนี้มานานมาก ถึงมากที่สุดแล้ว" 
*หมายเหตุ :
- สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแป๊ปสเมียร์แก่สตรีทั่วประเทศฟรี แต่ในปีนี้ได้หมดโครงการไปแล้ว เมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถติดตามข่าวสารในเรื่องดังกล่าวได้ที่ www.nhso.go.th หรือติดต่อสอบถามได้ที่โทร. 1330
- สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมแห่งชาติ โทร. 1506
ข้อมูล
นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ 

จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าทำไมเข็มนาฬิกาหมุนจากซ้ายไปขวา

นาฬิกาเรือนนี้สำหรับนักวิทยาศาสตร์

จริงๆ การหมุนของเข็มนาฬิกา เป็นที่สงสัยกันมานานแล้ว เดิมทีนาฬิกาที่ประดิษฐ์ขึ้นนั้นเป็นนาฬิกาแบบไขลาน ประดิษฐ์ขึ้นมาในซีกโลกเหนือ ซึ่งเป็นซีกโลกที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรขึ้นไป ก่อนที่จะมีนาฬิกาไขลานนั้น คนในยุคก่อนจะใช้นาฬิกาแดดเพื่อบอกเวลา โดยอาศัยเงาที่ทอดจากไม้ปักอยู่ตรงกลางนาฬิกาแดดเป็นสิ่งบอกเวลาของวัน ซึ่งในซีกโลกเหนือ เงานี้จะเคลื่อนไปในทิศทางจากซ้ายไปขวา หรือที่เราเรียกกันตอนนี้ว่า “ตามเข็มนาฬิกา” นั่นเอง

ดังนั้น เมื่อมีการประดิษฐ์นาฬิกาไขลานขึ้นมาเป็นเรือนแรก หน้าปัดและเข็มของมัน จึงได้รับการสร้างขึ้นมาในทิศทางเดียวกันกับนาฬิกาแดดนี่แหละ ที่มาของการหมุนนาฬิกาแบบเข็มก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ

วิธีแก้หน้าโทรมเวลานอนดึกแบบเร่งด่วน

เครื่องสเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้า-อยากหน้าใส-01

ไม่ว่าจะเที่ยวกลางคืนดึกแค่ไหน กฎข้อแรกที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่าดครัดก็คือ ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดก่อนอาบน้ำเสมอ แล้วจึงทาครีมหรือเซรั่มบำรุงผิวทั้งหน้าแบบเร่งด่วน และทาอายครีมใต้ตาก่อนนอน หรือจะใช้ทางลัดด้วยการแปะมาสก์หน้าทิ้งไว้แล้วเข้านอนไปเลยก็ย่อมได้ ตื่นเช้ามาหลังทาโลชั่นบำรุงผิวแล้ว ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ปรับสีผิวเพื่อช่วยทำให้หน้าใสขึ้น ตามด้วยการทาคอนซีลเลอร์ใต้ตาเล็กน้อย แล้วจึงแต่งหน้าตามปกติ

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

อะไร

หลังจากประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมร้ายแรงสุดในประวัติศาสตร์ในปีที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนหลายล้านคน จนหน่วยงานต่าง ๆ ต้องแข่งกันออกมาตรการช่วยเหลือสารพัดโครงการเพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย ทั้งที่เป็นครัวเรือน, ลูกจ้าง หรือแม้แต่ เจ้าสัวโรงงาน แบบไม่อั้น

ไม่ว่าจะเป็นมาตรการให้สินเชื่อดอกเบี้ยถูก ๆ วงเงินหลายแสนล้านบาท, การลดภาษีต่าง ๆ เพื่อมัดใจนักลงทุนไม่ให้เผ่นไปจากเมืองไทย, การจ่ายเงินชดเชยบ้านที่ถูกน้ำท่วม แม้กระทั่งการขายสินค้าราคาถูกหรือนำคูปองส่วนลดไปซื้อสินค้า เป็นต้น

อย่างน้อยผู้ที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากน้ำท่วมก็มีโอกาสที่จะคลายความทุกข์ได้ระดับหนึ่ง หลายโครงการประชาชนชื่นชมรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว แต่มีบางโครงการที่แจกจ่ายแล้วกลับถูกชาวบ้านด่า สุดท้ายเรื่องบานปลายจนต้องออกมาปิดถนนประท้วงทั้งที่เป็นของฟรี

หลายคนคงงง...ว่าทำไมได้ของฟรีแล้ว แต่ต้องมาด่ารัฐบาลซะงั้น! แทนที่จะยกมือไหว้ขอบคุณ...เพราะหากพูดกันตรง ๆ คือคนไทยส่วนใหญ่ชอบอยู่แล้วกับของฟรีหรือของลดราคา แต่กรณีของโครงการ “มหกรรมสินค้าเบอร์ 5 ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการแจกคูปองส่วนลด 2,000 บาทซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ของกระทรวงพลังงาน” มาแปลก ทั้ง ๆ ที่เจตนาผู้ให้ดีแต่กลับสร้างเรื่องราวโกลาหลจนได้

ทั้งนี้เงื่อนไขของโครงการก็คือให้ครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วม 27 จังหวัดไปรับคูปองได้ที่ศาลากลางหรือที่กระทรวงพลังงานตั้งโต๊ะ แล้วนำคูปองไปซื้อทีวี พัดลม หลอดไฟ, เตาแก๊ส, ไมโครเวฟ, เครื่องปรับอากาศ, กระติกน้ำร้อน เป็นต้น ได้ในราคาส่วนลด 20% ของราคาสินค้าและมูลค่าส่วนลดรวมกันไม่เกิน 2,000 บาทต่อครัวเรือน โดยรัฐบาลยอมควักเนื้อจากกระเป๋ากองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานวงเงิน 2,000 ล้านบาทในการอุดหนุนส่วนที่ลดราคาแก่ร้านค้า

หากรัฐบาล “ทักษิณส่วนหน้า” โฆษณาแจกแจงให้ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นบัตรส่วนลด 20% สำหรับการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่เข้าร่วมโครงการ เชื่อว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นคงไม่วุ่นวายขนาดนี้...แต่เป็นเพราะว่ารัฐบาลมุ่งเน้นใช้กลยุทธ์เชิงการตลาดกับชาวบ้านมากเกินไปจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้น

เริ่มแรกเมื่อเห็นแบบคูปองที่ได้รับแล้วชาวบ้านทั่วไปคงตาลุกวาว เพราะแบ่งเป็นคูปองมูลค่า 100 บาท และ 500 บาท รวมกัน 2,000 บาท เหมือนกับคูปองอาหารไม่มีผิด เพราะหน้าคูปองไม่พบว่ามีเงื่อนไขให้ใช้เป็นส่วนลด 20% แต่ประการใด

ชาวบ้านหลายคนที่ได้รับก็ดีใจเข้าใจว่ารัฐบาลจะให้เงิน 2,000 บาทที่เป็นรูปคูปองเหมือนกับ ’โครงการเช็คช่วยชาติ“ ในสมัยรัฐบาล ’นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ“ ที่สามารถใช้เช็คแทนเงินสดได้ทันที จนหลาย ๆ หมู่บ้านได้รวมตัวกันเหมารถยนต์ไปรับคูปองแล้วไปซื้อสินค้ากันอย่างสนุกสนาน

สุดท้ายหลายราย...ต้องผิดหวัง...เพราะคูปองใช้ประโยชน์ได้ไม่มากอย่างที่คิด เช่น ต้องซื้อสินค้าถึง 10,000 บาทก่อนจึงจะได้ส่วนลด 2,000 บาท เช่น ต้องซื้อเครื่องปรับอากาศ,ทีวี และตู้เย็น อย่างดีมีสกุล แต่หากซื้อพัดลมลดได้ 200-300 บาท หม้อหุงข้าว ลดได้ 200 บาท เตาแก๊สลดได้ 500-800 บาท เป็นต้น หากรายใดที่ไม่นำเงินติดตัวไปเลยกะจะใช้คูปองซื้อสินค้าก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า

จนหลายคนคิดว่ารู้อย่างนี้ไม่ต้องไปเข้าแถวรอรับคูปองให้เสียเวลา...ในที่สุดทำให้ชาวบ้านจำนวนมากไม่พอใจเกิดการปิดถนนประท้วงจนสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ที่สัญจรไปมา โดยเฉพาะในส่วนของ จ.สมุทรสาคร ที่รวมตัวกันปิดถนนพระราม 2 บริเวณทางแยกต่างระดับสมุทรสาคร

ขณะที่ชาวบ้านใน จ.พระนครศรีอยุธยารวมตัวกันปิดถนนสายเอเซีย บริเวณทางแยกต่างระดับอยุธยา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหากรณีการใช้คูปองส่วนลด 2,000 บาท เพราะบางคนใช้คูปองซื้อสินค้าไม่ได้ตามที่ต้องการ หรือหากต้องการใช้คูปอง ต้องซื้อสินค้าชนิดนั้นในราคา 10,000 บาทขึ้นไปจึงจะได้ส่วนลดเต็มมูลค่าของคูปอง ผู้ชุมนุมจึงเรียกร้องให้นำคูปองไปแลกเงินสดเแทน

“จนหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่านี่เป็นโครงการแจกคูปองที่แหกตาชาวบ้านหรือไม่เพราะคนอีกจำนวนมากเข้าใจว่าได้เงิน 2,000 บาทแบบฟรี หรือว่าเป็นโครงการที่ถลุงงบประมาณที่ไม่คุ้มค่ากับการควักกระเป๋าจากกองทุนอนุรักษ์ ที่อุตส่าห์เก็บสะสมมาจากผู้ใช้น้ำมันลิตรละ 1 สลึง รวม ๆ กันหลายหมื่นล้านบาทจนใครเห็นแล้วต้องตาลุกวาวแน่ หากนำ ไปให้รัฐบาลกู้ดอกเบี้ยถูก ๆ สร้างรถไฟฟ้าก็ยังดีกว่าแทนที่จะมาแจกคูปองส่วนลด และที่สำคัญโครงการนี้เร่งรีบทำเกินไปจนข้าราชการตั้งตัวไม่ทัน และเกิดคำถามว่ามีความโปร่งใสหรือไม่”

แม้ว่าที่ผ่านมากระทรวงพลังงานยอมรับสภาพว่าโครงการคูปอง 2,000 บาท มีคนมายื่นขอรับคูปองส่วนลดน้อยกว่าที่คาดไว้เพียง 200,000 ครัวเรือน หรือคิดเป็น 20% ของเป้าหมาย

พร้อมทั้งให้เหตุผลสาเหตุที่คนมาใช้น้อยและคนเข้าใจผิดคงมาจากประชาสัมพันธ์ได้ไม่ทั่วถึง และเป็นช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ประชาชนไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก

แต่ทั้งหมดทั้งปวงยังมีคำถามที่คาใจชาวบ้านหลาย ๆ คนว่า “เป็นไปได้หรือที่โครงการนี้จะอ่อนประชาสัมพันธ์” เพราะมีกระแสข่าวเกิดขึ้นว่าการดำเนินการให้เกิดโครงการนี้ขึ้น ได้ใช้เงินงบประมาณในการประชาสัมพันธ์และจัดงานรวมกันก็ปาเข้าไประดับ 100 ล้านบาท ที่สำคัญยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่เข้ามารับเป็นที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะ จึงไม่น่าจะเกิดการอลวนอลเวงเกิดขึ้น จนทำให้ชาวบ้านต้องเดือดเนื้อร้อนใจขึ้นไปอีก

ดูอย่าง “ประภาส พึ่งพรหม” พนักงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ระบุว่าแม้จะเป็นคนที่ติดตามข่าวและรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการลด 20% ของคูปอง แต่ยอมรับว่าการใช้คูปองมีเงื่อนไขเยอะแยะ เพราะมีการบังคับให้ซื้อเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 และที่สำคัญก็ไปหาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการยาก ทำให้ต้องไปหาร้านค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแทน จึงต้องการนำเสนอให้รัฐบาลเปลี่ยนเงื่อนไขต่าง ๆ ให้กับสถานการณ์ของชาวบ้านมากกว่านี้ เช่น น่าจะเป็นลักษณะเช็คเงินสดและให้ประชาชนที่เดือดร้อนสามารถซื้ออะไรก็ได้ที่จำเป็นเพราะส่วนใหญ่เป็นคนจน ไม่ต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่ม เพราะเพิ่มภาระอีก

หรือแม้แต่ นาย ก (นามสมมุติ) และเป็น ชาวนาใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมประท้วงในการปิดถนนรายหนึ่ง แสดงความไม่พอใจและเล่าว่าตนเองนั้นแก่แล้ว เดินทางมารับคูปองต้องรอทั้งวันและนำคูปองไปแลกสินค้าในอำเภอเมืองอยุธยาทุกร้านที่เข้าร่วมโครงการต่างก็บอกส่วนลดให้ 20% เช่น ซื้อตู้เย็น 8,000 บาทลด 1,600 บาทต้องจ่ายเงินสด 6,400 บาท หรือแม้แต่พัดลมตัวละ 1,000 บาทลด 200 บาทต้องจ่ายอีก 800 บาท แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ

ดังนั้นจึงอยากได้เป็นเงินสดจะดีกว่าไปซื้อข้าวของจำเป็น อย่าง กะปิ น้ำปลาเก็บไว้กินได้นาน

ขณะที่ “แม่ค้าตลาดมหาชัย ใน จ.สมุทรสาคร” รายหนึ่งบอกว่า คูปองนี้ทางชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติทุกคน คงต้องการให้เป็นคูปองเงินสด ไม่ใช่คูปองส่วนลด และเมื่อกระทรวงพลังงานได้สร้างความเข้าใจผิดแก่ชาวบ้านต้องเสียเวลา ต่อคิวยาวเป็นกิโลเมตรสุดท้ายก็ได้แค่คูปองส่วนลด ดังนั้นเมื่อกระทรวงพลังงานทำออกมาไม่รอบคอบ ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ จะมาโทษว่าชาวบ้านไม่เข้าใจวิธีการใช้คูปองไม่ได้ เพราะในคูปองไม่ได้ระบุว่าเป็นคูปองส่วนลด ใครที่ได้รับไปก็ต้องคิดว่าเป็นคูปองเงินสด ซื้อของได้เต็มราคา 2,000 บาท ทั้งนั้น

อย่างไรก็ตามเมื่อปัญหายังคงฉาวโฉ่ สุดท้ายก็โยนให้ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการต่อโดยไม่สนใจกระแสให้มีการตรวจสอบความโปร่งใสแถมยังเดินหน้าที่จะปรับหลักเกณฑ์ให้ประชาชนรับคูปองได้ง่ายเพื่อใช้เงินกองทุนฯ ที่กันไว้ 2,000 ล้านบาทให้หมด

โดยคราวนี้จะแจกให้ครัวเรือนที่ถูกน้ำท่วมและยังไม่ได้ใช้สิทธิอีก 770,000 ครัวเรือนในระหว่างวันที่ 10-20 ก.พ. 55 พร้อมทั้งเพิ่มร้านค้าให้มากกว่าเดิม และประชาชนสามารถไปรับคูปองได้ตามที่สำนักงานเขตหากอยู่ในกทม. รวมถึงที่ว่าการอำเภอในจังหวัดที่เหลือ จากเดิมที่แจกตามศาลากลางจังหวัด และจะขยายเวลาการใช้คูปองไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 55

เป็นโอกาสของรัฐบาลแล้วที่จะได้แก้ตัวในการคลายทุกข์ความเดือดร้อนของชาวบ้านจากน้ำท่วม หลังจากบริหารจัดการน้ำผิดพลาดจนเกิดความเสียหายครั้งใหญ่หลวงมาแล้ว แต่หากมาตรการช่วยเหลือยังเป็นแบบถลุงงบฯ เล่น ๆ ไปวัน ๆ เหมือนกรณีถุงยังชีพ ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นจากประชาชนค่อย ๆ ลดลงทีละนิด จนหมดความศรัทธาก็ได้.

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More