หน่วยโรบินฮู้ด กองปราบฯโชว์ฝีมือ ตามรวบตัวคนร้ายก่อเหตุกระชากกระเป๋าเหยื่อ ตรวจสอบพบมีประวัติโชกโชน
วันนี้ (10 ก.ค.) พ.ต.ท.วรวุฒิ คุณะเกษม รอง ผกก.5 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัฒน์พงศ์ ศรีพิณเพราะ สว.กก.5 บก.ป. เปิดเผยการนำกำลังเข้าจับกุมนายชาลี หรือต้น ตุงคะรัตน์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 526 ซ.ชุมชนวัดคลองเคยใน 2 แขวงและเขตคลองเตย พร้อมของกลางรถจยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว-ดำ ทะเบียน ฬ 742 กทม. 1 คัน โดยเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.น้ำฝน (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ได้มาพบ พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผกก.5 บก.ป. และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันปราบปรามการโจรกรรมทรัพย์สิน (โรบินฮู้ด) กองบังคับการปราบปราม ขอให้ช่วยติดตามโทรศัพท์มือถือไอโฟน 4 และซัมซุง F480 ซึ่งถูกคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ยี่ห้อฟีโน่ เป็นยานพาหนะวิ่งราวทรัพย์ไป เหตุเกิดบริเวณ หน้าโรงพยาบาล บีเอ็นเอช ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวพบว่าโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 เครื่องของผู้เสียหาย ถูกนายปิ่นณรงค์ กรรณาลงกรณ์ อายุ 36 ปี คนขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ อยู่บ้านเลขที่ 1961 ถ.ริมทางรถไฟสายเก่า แขวงคลองเตย เขตคลองเตย รับซื้อไว้จากคนร้าย จึงเข้าจับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหา รับของโจร ซึ่งนายปิ่นณรงค์ฯ ให้การว่า นายชาลี เป็นผู้นำโทรศัพท์มาขายให้ ในราคาเครื่องละ 6,000 บาท และ1,000 บาท ตามลำดับ กระทั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จึงสามารถตามจับกุมนายชาลี ได้พร้อมรถจยย.คันที่ใช้ขี่ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังสามารถยึดโทรศัพท์มือถือต้องสงสัยที่คาดว่าได้มาจากการกระทำความผิดอีกหลายรายการ
สอบสวนนายชาลี รับว่า ได้ก่อเหตุกระชากกระเป๋าจากเหยื่อที่เป็นสุภาพสตรีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง โดยจะลงมือก่อเหตุย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ย่านสีลม ย่านสาธร และย่าน ห้วยขวาง เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วจะนำไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และจากการตรวจสอบประวัติของนายชาลี พบว่าเคยต้องโทษคดีอาญามาหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายถูกจับกุมในท้องที่ สน.ห้วยขวาง ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 1 เดือน ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณเดือน ม.ค.2554 จึงนำควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดี ในข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ.
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวพบว่าโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 เครื่องของผู้เสียหาย ถูกนายปิ่นณรงค์ กรรณาลงกรณ์ อายุ 36 ปี คนขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ อยู่บ้านเลขที่ 1961 ถ.ริมทางรถไฟสายเก่า แขวงคลองเตย เขตคลองเตย รับซื้อไว้จากคนร้าย จึงเข้าจับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหา รับของโจร ซึ่งนายปิ่นณรงค์ฯ ให้การว่า นายชาลี เป็นผู้นำโทรศัพท์มาขายให้ ในราคาเครื่องละ 6,000 บาท และ1,000 บาท ตามลำดับ กระทั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่จึงสามารถตามจับกุมนายชาลี ได้พร้อมรถจยย.คันที่ใช้ขี่ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังสามารถยึดโทรศัพท์มือถือต้องสงสัยที่คาดว่าได้มาจากการกระทำความผิดอีกหลายรายการ
สอบสวนนายชาลี รับว่า ได้ก่อเหตุกระชากกระเป๋าจากเหยื่อที่เป็นสุภาพสตรีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง โดยจะลงมือก่อเหตุย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ย่านสีลม ย่านสาธร และย่าน ห้วยขวาง เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วจะนำไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และจากการตรวจสอบประวัติของนายชาลี พบว่าเคยต้องโทษคดีอาญามาหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายถูกจับกุมในท้องที่ สน.ห้วยขวาง ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 1 เดือน ก่อนพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณเดือน ม.ค.2554 จึงนำควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดี ในข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น